เอาละก่อนที่จะไถนิ้วเลื่อนหา ว่ามันมีวิธีอะไรที่จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน หลายคนคงเคยผ่านหูผ่านตากับพวกสูตรอาหาร 3 วัน 5 วัน 7 วัน ดื่มแต่ชาดีทอกซ์ร่างกาย หรือคำแนะนำว่าให้งดมื้อเย็น กินมื้อเดียว บลาบลาบลา กันมาบ้างแล้วแน่ๆ ดังนั้นก่อนจะว่ากันในเรื่องของการเพิ่มการเผาผลาญฯ ในวันนี้ เราจะย้อนกลับไปหาเรื่องพื้นฐาน ชีววิทยาร่างกายของมนุษย์ แบบสั้นๆกันก่อนนะครับ

Metabolism คืออะไร
Metabolism คือกระบวนการภายในร่ายกายของเรา ที่จะทำการเปลี่ยนอาหาร ให้เป็นพลังงานสำหรับร่างกาย ซึ่งพลังงานที่ได้มานั้น ก็จะถูกนำไปใช้ในการกระทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ทั้งกิจกรรมที่เรารู้สึกได้ และกิจกรรมระดับอวัยวะ ระดับเซลล์ ระดับฮอร์โมนต่างๆอีกจำนวนมาก ที่เราอาจจะไม่รู้ว่ามันมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งตอนเราหลับ และตอนเราตื่น กระบวนการและพลังงานนี้คือสิ่งที่ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ในแต่ละวันนะครับ
ส่วนปริมาณอาหารว่าเราต้องกินเท่าไหร่ในแต่ละวันนั้น ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละคนนะครับ มีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้ เดี๋ยวเราจะมาลงรายละเอียดกันอีกที กลับมาที่การเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ผมเชื่อเลยนะครับ ว่าท่านทั้งหลายจะต้องเคยเห็นพวกคำแนะนำประเภทว่าสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้ โดยใช้ยา อาหารเสริม หรือการทำความสะอาดร่างกายจากภายใน อะไรทั้งหลายแหล่ที่เขาจะสรรหากันมาใช้บอกเรา ขอบอกแบบฟันธงไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้พวกนั้นเลย มันไม่ใช่อะไรที่ดีนักหรอกครับเชื่อเถอะ
เอาละครับเกริ่นมายาวแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เดี๋ยวผมจะทำรายการลำดับสิ่งต่างๆ ให้ดูนะครับ ว่าอะไรบ้างที่มันมีผลกับการเผาผลาญพลังงาน อันไหนจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานให้กับเรา ซึ่งพอเรารู้กันแล้วเราจะได้นำมาปฎิบัติ และในทางกลับกัน อะไรบ้างที่มันทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานของเรามันลดลง เมื่อรู้แล้วเราจะได้หลีกเลี่ยง พร้อมแล้วมาว่ากันเป็นข้อๆไปเลยนะครับ
ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกับเผาผลาญพลังงานมีอะไรบ้าง
อายุ
ในตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น ในช่วงที่ร่างกายกำลังมีการเจริญเติบโต ช่วงนั้นเป็นวัยที่ร่างกายต้องการพลังงานในแต่ละวันสูงนะครับ ยิ่งเมื่อเทียบกับตอนที่เราอายุย่างเข้าเลขสี่แล้วด้วย ยิ่งห่างกันมากนะครับ ๕๕ ดังนั้นเวลาที่เราอายุเพิ่มขึ้น อัตราการเผาผลาญพลังงาน ของเราก็จะค่อยๆลดลงด้วย ไม่แปลกเลยใช่มั้ยครับ ที่บางคนบอกว่าสมัยเด็กกินยังไงก็ไม่อ้วน แต่พอโตขึ้น กินนิดเดียวพุงกะทิมาเยือนแล้ว แถมเวลาลดก็ลดยากกว่าตอนวัยรุ่นด้วย
โครงสร้างทางชีววิทยาของร่างกาย
ร่างกายของผู้ชายนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะ สูง ใหญ่ และมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่าในร่างกายของผู้หญิง นั่นคือสาเหตุว่าทำไมผู้ชายถึงเผาผลาญพลังงานมากกว่าผู้หญิง ทั้งในช่วงที่พักเฉยๆ และในตอนที่ทำกิจกรรมต่างๆ แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมเดียวกัน ทำเหมือนๆกันก็ตาม
ยีน (Genes)
ยีนหรือโครงสร้างทางพันธุกรรมของเรา มีส่วนกำหนดรูปแบบ ของการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคน ซึ่งในส่วนนี้เป็นปัจจัยที่เราแทบจะเปลี่ยนแปลงอะไรมันไม่ได้เลย แต่ก็ควรรู้ไว้ว่าส่วนนึงที่ทำให้คนแต่ละคน เผาผลาญพลังงานได้แตกต่างกัน ก็มีผลมาจากเรื่องของยีนด้วยนั่นเองครับ
รูปแบบการกินอาหาร
ช่วงเวลา (When) ที่เรากินอาหาร มีความสำคัญมาก พอๆกับว่าเรากินอะไร (What) นะครับ การอดอาหาร ลดมื้ออาหาร (Fasting) จะทำให้การเผาผลาญพลังงานของเรามีความสับสน และอาจจะส่งผลให้เกิดการลดลงของอัตราการเผาผลาญพลังงานได้ เพราะในช่วงที่เราอดอาหาร ร่างกายเราก็พยายามที่จะรักษาพลังงานไว้ และลดการเผาผลาญต่างๆลง การอดอาหารบ่อยๆ อดอาหารนานๆ มีผลทำให้ร่างกายคุณปรับตัวเข้าสู่ภาวะจำศีล
กิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน
อัตราการเผาผลาญของเราจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงที่เรามีการขยับตัว ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการทำงานบ้าน หรือกิจกรรมที่เป็นการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาต่างๆ เมื่อเรามีกิจกรรมพวกนี้ จะช่วยให้การเผาผลาญพลังงานสูงขึ้นกว่าตอนที่เราอยู่นิ่งๆ นอนดูซีรีส์ นั่งไถมือถือตามเรื่องดราม่าต่างๆ
โรคประจำตัวต่างๆ
อย่างเช่น โรคเบาหวาน มีผลต่อการขัดขวางการจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือด หลังจากที่เรากินอาหารเข้าไป ซึ่งก็จะมีผลต่อปริมาณพลังงานที่ร่างกายเราจะเผาผลาญด้วยนั่นเองครับ โรคที่เกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกัน อย่างเช่น ไทรอยด์ ก็จะมีผลต่อการควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย คนที่เป็นไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) จะมีการเผาผลาญพลังงานที่สูงขึ้นมาก ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักตัวลด (แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีนะครับ) หรืออย่างคนที่เป็นโรคไทรอยด์ Hashimoto ก็จะมีผลทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและน้ำหนักขึ้นเล็กน้อยได้นะครับ เรื่องปัจจัยทางสุขภาพ โรคต่างๆพวกนี้ มีผลต่อการเผาผลาญ การจัดการกับปัญหาตรงนี้ ทางที่ดีที่สุดต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเผาผลาญ ว่าจะมาก หรือจะน้อย บางอย่างเป็นปัจจัยที่ควบคุมเปลี่ยนแปลงได้ บางอย่างเป็นเรื่องที่เราควรคุมหรือเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ แต่ก็อย่าให้มันเป็นอุปสรรคครับ ถ้าเรารู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นปัจจัยลบ เราก็ทำความเข้าใจมัน แล้วไปวางแผนทางอื่นต่อ ว่าจะเอายังไงดี
ถ้าจะเพิ่มการเผาผลาญพลังงานต้องทำยังไง ?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าแม้เราจะคุยกันเรื่องการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน แต่ยังไงก็ตามไอ้ที่เราจะทำให้มันเพิ่ม เราจะทำการกระตุ้นให้มันเพิ่ม ถ้าเพิ่มมันจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้เพิ่มขึ้นพรวดพราดต่างกันสุดลิ่มทิ่มประตู
เราจะต้องให้ความสำคัญกับการ
- เพิ่มการเคลื่อนไหว
- เพิ่มกล้ามเนื้อ
- กินอาหารให้สม่ำเสมอ
เวลาที่เราเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอะไร แม้แต่การเดินไปเดินมาที่แสนจะธรรมดาเนี่ยนะครับ ร่างกายเราจะใช้พลังงานในการทำกิจกรรมเหล่านั้นเพิ่มขึ้น นั่นก็หมายความระบบเผาผลาญในร่างกาย ก็จะต้องเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานเพิ่มขึ้นนั่นเอง
การเดิน การวิ่ง หรือการทำงานบ้านเพิ่มขึ้น ต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ดีที่จะเพิ่มการช้พลังงาน นอกจากิจกรรมพวกนี้แล้ว การออกกำลังกายด้วยการเล่นเวท (Strenght training) ก็เป็นการออกกำลังกายที่ดีนะครับ เพราะการเล่นเวทจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อให้เราได้ ซึ่งมวลกล้ามเนื้อแต่ละเซลล์เนี่ย จะมีความต้องการพลังงานมากกว่ามวลไขมัน การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ก็จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในขณะที่เราอยู่เฉยๆ (Rest metabloric rate) ได้ด้วยนะครับ
กินอาหารให้สม่ำเสมอ อันที่จริงเราไม่จำเป็นจะต้องไปอดอาหาร หรือตัดมื้ออาหารอะไรออกไปก็ได้นะครับ เพียงแค่กินให้เหมาะสม เรื่องการกินเนี่ย ไม่ใช่เรื่องหลักที่เราจะมาหวังผลในการเพิ่มการเผาผลาญเท่าไหร่หรอกครับ แต่การกินอาหารที่ดี จะทำให้เราได้ประโยชน์อื่นจากมัน ควรเพิ่มอาหารที่มีโปรตีนเข้ามาบ้าง เพราะมันทำให้อยู่ท้อง แล้วก็ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อนี่ก็วนไปในการเพิ่มพลังงานที่กล่าวถึงไปแล้วข้างบนนั่นเองครับ
กินอาหารให้ได้พลังงานเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อย่ากินให้มันน้อยมากเกินไป พวกผักผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ อย่างข้าวกล้อง ควินัว โอ๊ต อะไรพวกนี้ก็สามารถทานได้ ดูปริมาณให้เหมาะสม การกินมื้ออาหารให้สม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างเป็นระบบ
อ่านมาถึงตรงนี้ บางท่านอาจจะงง แล้วไหนล่ะคาถาวิเศษที่จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ไม่ต้องงครับ มันมีเท่าที่พิมพ์ไว้ข้างบนนั่นแหละครับ เราจะเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน เราก็ต้องเพิ่มกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดไขมันสะสม ส่วนสารพัดงานวิจัย หรือสารพัดโฆษณาอาหารเสริมที่บอกว่าอันนั้นเพิ่มการเผาผลาญได้ อันนี้กินแล้วเพิ่มการเผาผลาญได้ ลองไปดูดีๆเถอะครับ ว่ามันเพิ่มได้ในปริมาณเท่าไหร่ และมีอันไหนบ้าง ที่ไม่กำกับไว้ว่า ให้กินควบคู่ไปกับการคุมอาหารและการออกกำลังกาย สุดท้ายแล้วแม้เราไม่ได้กินไอ้สิ่งนั้น แต่เราคุมอาหารให้เหมาะสม และออกกำลังกายให้เพียงพอ มันก็ได้ผลเหมือนกันอยู่ดี
แล้วจะไปเสียเงินเสียเวลากับไอ้สิ่งต่างๆเหล่านั้นไปทำไมกัน จริงไหมครับ !!
รายการ Fat Talk หัวข้อ วิธีการเพิ่มการเผาผลาญแบบที่ได้ผลจริง คลิกชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ