งานนี้เป็น Meta-analyses จากการศึกษา 13 งานที่ดูเกี่ยวกับผลของไลโคปีน (Lycopene) เกี่ยวกับเรื่องของค่า lipid profile (ค่าไขมันนั่นแหละ) และความดันโลหิต (blood pressure) [1]
ที่น่าสนใจอย่างก็คืองานหลายๆงานที่นำมาศึกษา รับประทานเป็นน้ำมะเขือเทศคั้นบ้าง ซุปมะเขือเทศบ้าง น้ำแตงโมบ้าง (ใช่ แตงโมก็มีไลโคปีนด้วย เห็นสีแดงนั่นไหมละเทอ) มะเขือเทศสดบ้าง (จริงๆมะเขือเทศสุกดีกว่านะครับ เพราะทำให้การยึดเกาะของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อมะเขือเทศลดลง เราจะได้รับไลโคปีนได้มากกว่าทานสดๆ)
มีบ้างที่ให้ทานเป็นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ส่วนมากทานในรูปแบบทั่วๆไป ดังนั้นมันจึงไม่ใช่งานที่ดูเพื่อสนับสนุนการทานอาหารเสริมเพียงอย่างเดียว ผมชอบตรงนี้
ซึ่งจากที่เขาศึกษา เขาก็พบว่าไลโคปีน ส่งผลดีต่อ การลด LDL โดยการทานไลโคปีนแบบ high dose ที่วันละมากกว่า 25mg ต่อวัน ลด LDL ได้ประมาณ 10% เทียบเท่ากับการทาน statins ซึ่งเป็นยาลดไขมันในเลือด dose ต่ำๆเลยทีเดียว ซึ่งมะเขือเทศแดงๆที่จะให้โดสประมาณนี้ ก็ประมาณวันละ 1 ถ้วยตวงโดยประมาณ ก็น่าสนใจดีครับ
หรือถ้าไม่ชอบมะเขือเทศ อย่างที่บอกแตงโมก็มีไลโคปีน ฝรั่ง มะละกอก็มี พืชท้องถิ่นอย่างเช่น ฟักข้าวก็มีไลโคปีนสูง [2] นอกจากเรื่องข้างต้นแล้วไลโคปีนก็ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง
จริงๆแอบสงสัยอยู่นิดนึงตอนอ่านงานนี้ ว่าผลต่อความดันที่ทำให้ความดันลดลงเนี่ย เอาจริงเป็นเพราะไลโคปีน หรือว่าโพแทสเซียมกันแน่ เพราะว่าในมะเขือเทศก็มีโพแทสเซียมอยู่ประมาณนึง และก็ส่งผลให้เกิดความดันที่ต่ำลงได้อยู่นะ
อ้างอิง
- Protective effect of lycopene on serum cholesterol and blood pressure: Meta-analyses of intervention trials. 2011. Karin Ried, PeterFakler.
https://doi.org/10.1016/j.maturitas.2010.11.018 - การเปลี่ยนแปลงปริมาณสารไลโคปีนหลังการเก็บเกี่ยวของผลฟักข้าว และการทำนาย. นครปฐม:มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. อภิญญา ภูมิสายดอน และ มนต์ทิพย์ ช่ำชอง. (2555).
https://kukrdb.lib.ku.ac.th/proceedings/PKPS/search_detail/result/166066
