ยาลดไขมัน Statin ทำให้เป็นเบาหวานรึเปล่า ?

การใช้ยาลดไขมัน Statin ทำให้เกิดเป็นเบาหวานจริงรึเปล่า ?


ยาลดไขมัน Statin ทำให้เป็นเบาหวานรึเปล่า ?

การใช้ยา Statin ถูกตั้งคำถามมาเป็นระยะๆ ว่าส่งผลให้เป็นเบาหวานได้รึเปล่านะครับ การศึกษาก่อนหน้านี้ก็มีกันมาหลายงาน ในงานนี้ก็เป็นงานนึงที่ศึกษาความสัมพันธ์ของการใช้ Statin กับความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน

งานนี้เป็นการศึกษาของ Rifai และคณะ (2022) [1] ในกลุ่มผู้ป่วยหลอดเลือดแข็งตัว จากข้อมูลของ MESA (Multi-Ethnic Sutdy of Atherosclerosis) โดยในงานนี้เขานำเรื่องของการตรวจหาคราบหินปูนที่หลอดเลือดแดงของหัวใจ (Coronary Artery Calcium, CAC) รวมถึงมีการนำเอาตัวแปรที่เป็นความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ ต่างๆ มาวิเคราะห์ผลด้วย

Rifai และคณะ (2022)

ทั้งนี้ต้องย้อนไปก่อนว่ามันมีการศึกษาก่อนหน้านี้ ที่พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้ Statin นั้นเกิดเป็นเบาหวานมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ Statin ในงานนี้เขาจึงนำข้อมูลมาศึกษา และเพิ่มการ adjust ข้อมูลเอา CAC และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ด้วย โดยเขาตั้งสมมติฐานไว้ว่า เมื่อมีการ adjust ตัวแปรต่างๆเหล่านี้ แล้วความเสี่ยงมันน่าจะลดลง และ CAC สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่มากขึ้น

ศึกษายังไง ?

รูปแบบการศึกษาก็เป็น Prospective cohort study ข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 6,814 คน อายุระหว่าง 45-84 ปี ข้อมูลการใช้ Statin ก็จะมีเรื่องของความถี่และ Dose ที่ใช้ หลังจากเริ่มใช้ Statin ก็จะเป็นการติดตามผลดูว่าเกิดเป็นเบาหวานจำนวนกี่คน ส่วนเกณฑ์การเกิดโรคของเบาหวานก็เป็นเกณฑ์ทั่วไปนะครับ ดูจาก Fasting glucose มีการตรวจ CAC ความดัน ค่าเลือดต่างๆ

สิ่งที่เขาจะนำมา adjust ออกจากข้อมูลความเสี่ยง ก็จะมีพวก อายุ เพศ เชื้อชาติ รายได้ ระดับการศึกษา ประกันสุขภาพ รอบเอว พฤติกรรมการกิน กิจกรรมทางกาย  ค่า LDL-C การเป็นโรคความดันสูง ค่าความดัน การสูบบุหรี่ ดื่มเหล่า ค่า C-reactive protein (CRP) การใช้แอพไพริน การใช้ Statin จากตอนแรก 6,814 คน ตัดคนที่เป็นเบาหวานมาก่อนแล้วออกไป 871 คน

ผลที่ได้คือ ?

ผลที่ได้ ก็เหลือกลุ่มตัวอย่าง 5,943 คน อายุเฉลี่ย 62 ปี เป็นผู้หญิง 54% เทียบระหว่างกลุ่มใช้ Statin กับไม่ใช้ กลุ่มที่ใช้ จะอายุ , BMI และรอบเอวมากกว่า มีคนที่เป็นความดันโลหิตสูงเยอะกว่า และก็มี CAC > 0 มากกว่า มีค่า LCL-C และ CRP น้อยกว่า มีกิจกรรมทางกายมากกว่า ทั้งหมดนี้มีนัยสำคัญทางสถิติ

สิ่งที่น่าสนใจเริ่มต้นที่ ถ้าเราดูความสัมพันธ์ต่อความเสี่ยงที่เกิดเบาหวานในขั้นแรก กลุ่มที่ใช้ Statin เกิดเบาหวานในอัตรา 9.3 ต่อพันคน ในขณะที่กลุ่มไม่ได้ใช้ Statin อัตรา 6.1 ต่อพันคน ข้อมูลแบบนี้ บางคนดูเฉพาะตรงนี้แล้วสรุปว่า Statin ทำให้เกิดเบาหวาน

กราฟความสัมพันธ์ต่อความเสี่ยงที่ยังไม่ได้ Adjust ข้อมูลปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ

แต่เมื่อนำข้อมูลมา Adjust เอาสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่นค่า CAC มาปรับดูความเสี่ยง ก็พบว่าค่าความเสี่ยงในกลุ่มที่ใช้ Statin ที่ตัดเอาปัจจัยอื่นๆออก ลดลงหลายค่า บางค่าลดลงมาก รวมถึงบางค่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเขาก็สรุปว่าการรักษาด้วย Statin นั้นไม่ได้มีนัยสำคัญทางสถิติที่สัมพันธ์กับการเกิดเบาหวาน หลังจากนำปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ มาปรับข้อมูล

เมื่อ Adjust ปัจจัยเสี่ยงอื่นแล้ว พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตามต้องบอกก่อนว่า ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่จำกัดเฉพาะในกลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้เท่านั้น และขนาดของกลุ่มตัวอย่างก็มีจำนวนน้อย โดยเฉพาะเมื่อนำมาวิเคราะห์เป็นกลุ่มย่อยๆ แยกตามปัจจัยเสี่ยงก็น้อยลงไปอีก และที่สำคัญเป็นการศึกษาแบบ Observational study ดังนั้น สิ่งที่ได้ไม่ได้เป็นกลไกว่าทำให้เป็นหรือไม่เป็นนะครับ แต่บอกได้แค่ว่ามีความเสี่ยงที่จะพบการเกิดโรค มากน้อยแค่ไหน

สรุป

ทั้งนี้การใช้หรือไม่ใช้ยายังไง ก็ให้ปรึกษาแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ดูแลการรักษาอยู่นะครับ ในบางอาการ บางข้อบ่งชี้จำเป็นต้องใช้ยาก็ควรใช้ และไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ การดูแลโภชนาการให้เหมาะสม ออกกำลังกายให้เพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ สามเสาหลักนี้ยังไงก็ต้องไม่ลืมนะครับ

อ้างอิง

  1. Al Rifai M, Szklo M, Patel J, Blaha MJ, Ballantyne CM, Bittner V, Morris P, McEvoy JW, Shapiro MD, Al-Mallah MH, Greenland P, Virani SS. Statin Use and Risk of Diabetes by Subclinical Atherosclerosis Burden (from a Multi-Ethnic Study of Atherosclerosis Report). Am J Cardiol. 2022 Dec 1;184:7-13. doi: 10.1016/j.amjcard.2022.08.040. Epub 2022 Oct 1. PMID: 36192199.

GO TOP

🎉 You've successfully subscribed to Fat Fighting!
OK