“กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ” คงจะเป็นสิ่งที่พวกเราได้ยินกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก การเล่นกีฬาเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยม บางคนก็ชื่นชอบในกีฬามากจนทำเป็นอาชีพกันเลยทีเดียว และบ่อยครั้ง เวลาเราชมกีฬาต่าง ๆ โดยเฉพาะกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งอย่างฟุตบอล เราก็มักจะได้ยินคอบอลบ่นนักเตะเวลาเซ็ง ๆ ว่า “เล่นแบบนี้ ให้ (คนพูด) ลงไปเล่นแทนยังดีกว่า” แต่ การที่คนคนหนึ่งจะก้าวขึ้นไปเป็นนักฟุตบอลหรือนักกีฬาระดับอาชีพได้ จะต้องมีความฟิตในระดับไหนกันเชียว?
นักฟุตบอลอาชีพ vs คนธรรมดา
โดยปกติแล้ว นักฟุตบอลอาชีพจะต้องเคลื่อนไหวประมาณ 11-12 กิโลเมตรในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะฟังดูน้อย เเต่ก็ต้องอย่าลืมว่ากีฬาฟุตบอลไม่ใช่กีฬาวิ่งที่จะมีความเร็วคงที่ตลอดเวลา แต่เต็มไปด้วยการสปรินท์ การโยกย้ายป้ายท่า และการเอาชนะคู่แข่งในการดวลตัวต่อตัว แถมยังต้องมีสมาธิ คอยระมัดระวังสภาพแวดล้อมของตัวเองให้ดีอีกด้วย โดยเมื่อวัดจากค่า VO2 max หรือปริมาณออกซิเจนที่มวลร่างกายใช้งานในแต่ละวินาที (หน่วยเป็นมิลลิลิตร/กิโลกรัม/วินาที) คนธรรมดาอย่างเรา ๆ จะใช้ออกซิเจนวินาทีละ 35-40 มิลลิลิตรต่อมวลร่างกายหนึ่งกิโลกรัม ในขณะที่นักฟุตบอลระดับสูงในพรีเมียร์ลีกอาจจะใช้ถึงวินาทีละ 60-70 มิลลิลิตร และมีมวลไขมันเพียง 6-10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับมวลร่างกาย ในขณะที่คนธรรมดาจะมีมวลไขมันอยู่ที่ 25-30%
แล้วทุกคนฟิตแบบนี้เหมือนกันมั้ย ?
แต่ สิ่งที่ต้องพิจารณาว่า “นักฟุตบอลระดับสูง” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นนักฟุตบอลระดับเมสซี่ โรนัลโด้เสมอไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว นักฟุตบอลอาชีพทุกคนก็ฟิตในระดับเท่า ๆ กัน เพราะก็ต้องเล่นฟุตบอลให้ได้ตลอด 90 นาที เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่านักฟุตบอลระดับลีกล่างจะฟิตน้อยกว่าถึงได้เล่นในระดับที่ต่ำกว่าเสมอไป อาจจะเป็นเพราะทักษะด้านฟุตบอลหรือเหตุผลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับร่างกายก็เป็นได้
แล้วเราจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้รึเปล่า ?
ถ้าเกิดคุณผู้อ่านมีความคิดว่า อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก็ต้องบอกเลยว่าหนทางไม่ได้ง่ายเช่นนั้น นักฟุตบอลอาชีพส่วนมากก็จะมาจากโรงเรียนของแต่ละสโมสรที่จะคอยฝึกฝนนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ให้คุ้นชินกับกีฬา ความฟิต และความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว การเป็นนักฟุตบอลหรือนักกีฬาอาชีพต้องอาศัยการฝึกฝนและความคุ้นชินกับกีฬามาเป็นเวลานานเพราะร่างกายของเราจะไม่จำเป็นต้องปรับสภาพอะไรใหม่ ๆ หนำซ้ำ การที่คนธรรมดาอย่างเราจะกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ ก็ต้องฝึกให้สมกับเป็นมืออาชีพ การเข้าฟิตเนส วิ่ง วิดพื้นเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่เพียงพอ แถมเราก็จะต้องสละเวลาที่มีค่าในแต่ละวันไปกับการออกกำลังกาย เพราะฉะนั้นก็ต้องลืมเรื่องทำงาน ครอบครัว เวลาว่างไปได้เลย
งั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเล่นสิ ถ้าไม่ได้เป็นระดับอาชีพ ?
แต่ กีฬาฟุตบอลก็ยังคงเป็นกีฬาที่เหมาะแก่การออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องวิ่ง เตะ พุ่งสกัดปัดเซฟแล้ว ก็ยังต้องกระโดด ลากเลื้อย และคิดวางแผนก่อนจะผ่านบอลในแต่ละลูก จึงได้ถึงสุขภาพหัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ แถมยังเป็นการลับสมองให้เฉียบคมกันอยู่เสมอ ๆ ด้วย และท้ายที่สุด ฟุตบอลก็เป็นกีฬาประเภททีมที่จะทำให้เราได้พบปะเพื่อนใหม่มากมาย กลายเป็นเครื่องพัฒนาสุขภาพจิตให้เราไม่เคร่งเครียดได้อีกด้วย
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเนื้อหาจากนักเขียนภายนอก ติดต่อลงบทความทางด้านสุขภาพ โภชนาการ การออกกำลังกาย วิทยาศาสตร์การกีฬาได้ที่ theryo@gmail.com