ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำกี่แก้ว ?

เราอาจจะเคยได้ยินบางคนแนะนำว่า เราควรดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้ว บางคนบอกว่าดื่มเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ แต่ว่าเอาจริงๆแล้วเราควรดื่มน้ำเท่าไหร่กันแน่


ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำกี่แก้ว ?

น้ำเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของเรานะครับ เพราะว่าทุกระบบในร่างกายของเราต้องการน้ำทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย การกำจัดของเสีย การนำพาสารอาหาร และออกซิเจนเข้าไปยังเซลล์ต่างๆ ช่วยหล่อลื่นข้อต้อต่างๆ ทำให้อวัยวะภายในทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ฯลฯ ทั้งหลายกระบวนการเหล่านี้ล้วนใช้น้ำเป็นส่วนในการทำงานทั้งสิ้น

น้ำมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ระบบความจำและอารมณ์ของเรา รู้ไหมครับว่าคนที่มีอาการขาดน้ำถึงแม้จะเพียงแค่ 5% ก็ยังส่งผลให้มีอาการเฉื่อยชา รู้สึกอารมณ์ไม่ปกติ ไม่ค่อยมีสมาธิได้เลยนะครับ

gym
Photo by bruce mars / Unsplash

เราควรดื่มน้ำวันละกี่แก้ว ?

เราอาจจะเคยได้ยินบางคนแนะนำว่า เราควรดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้ว บางคนก็แนะนำว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 1 ลิตรบ้าง 2 ลิตรบ้าง บางคนบอกว่าดื่มเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ แต่ว่าเอาจริงๆแล้วเราควรดื่มน้ำเท่าไหร่กันแน่ ถ้ามันไม่ค่อยรู้สึกหิวน้ำล่ะ ต้องดื่มมั้ย เอาละครับ วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องนี้กัน

เพื่อที่จะหาว่าในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ อันดับแรกนะครับ ให้ดูน้ำหนักตัวของเราในหน่วยปอนด์ แล้วหาร 2 เราจะได้ปริมาณน้ำเป็นหน่วยออนซ์ ที่เราควรกินใน 1 วัน เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ยกตัวอย่างเช่น หนัก 150 ปอนด์ ก็ควรดื่มน้ำ 75 ออนซ์ต่อวัน อันนี้เบื้องต้นก่อนนะครับ

ทีนี้บ้านเรานิยมชั่งน้ำหนักกันเป็นหน่วยกิโลกรัมนะครับ 1 กิโลกรัมเท่ากับประมาณ 2.2 ปอนด์ จากนั้นนำมาหาร 2 ก็เท่ากับน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เราควรดื่มน้ำ 1.1 ออนซ์ ทีนี้เราหนักเท่าไหร่ในหน่วยกิโลกรัม ก็เอามาคูณ 1.1 ได้เท่ากับปริมาณน้ำที่ต้องดื่มในแต่ละวันหน่วยเป็นออนซ์

ทีนี้อาจจะงงที่หน่วยออนซ์ เพราะบ้านเรานิยมใช้หน่วย ลิตร หรือ มิลลิลิตร (ml) กัน ผมจะมาแปลงหน่วยให้อีกขึ้นนึงนะครับ 1.1 ออนซ์เนี่ย เท่ากับ 325 มิลลิลิตร ดังนั้นน้ำหนักตัวเราเท่าไหร่ในหน่วยกิโลกรัม ก็ให้คูณ 32.5 มิลลิลิตร จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันในหน่วยมิลลิลิตรนั่นเองครับ

Photo by Houston Max / Unsplash

สรุปสูตรคำนวณ

สรุปก่อนเนอะเดี๋ยวจะงง สรุปสูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่ควรดื่มในแต่ละวัน

ปริมาณน้ำที่ควรดื่ม (ml) =  32.5 x น้ำหนักตัว (kg)

ตัวอย่าง ถ้าเราหนัก 50 กิโลกรัม ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันก็จะเท่ากับ 32.5 x 50 = 1,650 ml  แก้วน้ำเรา 1 แก้วทั่วๆไปก็จะประมาณเกือบๆ 200 ml  วันนึงก็ควรดื่มน้ำประมาณ 7-8 แก้วโดยประมาณคร่าวๆ ซึ่งจากที่อธิบายมาถึงตรงนี้ ก็จะเห็นนะครับว่าในคนที่น้ำหนักตัวเยอะขึ้น คนที่หนักร้อยกว่าโล ก็ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้นด้วยนั่นเองครับ

ที่กล่าวถึงข้างบนนี่คือปริมาณน้ำพื้นฐานที่เราควรดื่มในแต่ละวันนะครับ ถ้าเราทำงานหนัก ออกกำลังกายหนัก สูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติ เราก็จะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เพิ่มขึ้นด้วยนะครับ ถ้าเป็นคนเหงื่อออกเยอะ หรือออกกำลังกายในอากาศร้อน ก็ต้องดื่มน้ำเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันนะครับ

Photo by LYFE Fuel / Unsplash


ร่างกายเราสูญเสียน้ำออกไปตลอดเวลา

ไม่ใช่เฉพาะแค่ปัสสาวะ หรือเหงื่อเท่านั้น แม้แต่การหายใจ ลมหายใจออกของเราก็จะมีการสูญเสียน้ำอีกส่วนหนึ่งไปกับลมหายใจที่เราหายใจออกเหล่านั้น ถ้าต้องการลดปริมาณการสูญเสียน้ำ เราจึงต้องหยุดหายใจออก เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว เราหยุดหายใจไม่ได้ ดังนั้นเราก็ต้องดื่มน้ำเข้าไปเติมเรื่อยๆ ไม่ให้ร่างกายอยู่ในภาวะเสียน้ำ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการช๊อคและโรคภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ครับ

ถ้าไม่ชอบดื่มน้ำอ่ะ

พวกเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างเช่น นม กาแฟ น้ำชา ก็ถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่นำมาคิดได้นะครับ แต่ยังไงก็ตาม น้ำเปล่าธรรมดาๆ ก็ควรเป็นตัวหลักนะครับ เครื่องดื่มบางชนิด อย่างพวกน้ำอัดลมนี่ยิ่งกินยิ่งต้องกินน้ำเข้าไปเยอะขึ้นด้วยซ้ำนะครับ

cocktails juice
Photo by Kaizen Nguyễn / Unsplash

Infused water

เครื่องดื่มชนิดนี้อาจจะไม่คุ้นกันโดยทั่วไปสำหรับคนไทยนะครับ จริงๆมันก็คือน้ำแช่ผลไม้ ชนิดต่างๆนั่นแหละครับ บางคนอาจจะเคยเห็นเป็น Welcome drink ตามโรงแรมนะครับ คือแทนที่จะดื่มน้ำเปล่าที่เราไม่ค่อยชอบ ก็ลองใส่ผักหรือผลไม้ที่เราชอบเข้าไป แล้วแช่เย็นไว้สักสองสามชั่วโมง หรือข้ามคืน เมื่อนำมากินก็จะมีกลิ่นหรือรสชาติ เจ้าผักผลไม้ที่เราชอบนั้นเจือในน้ำ อาจจะช่วยให้เราดื่มน้ำได้สนุกขึ้นนะครับ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสารอาหาร อย่าไปอะไรกับมันมากเลยครับ ถ้าหวังจะรับสารอาหารจากผักหรือผลไม้เหล่านั้น กินมันโดยตรง ดีกว่ามาหวังกับ Infused Water มากมายครับ

ผักผลไม้ก็ช่วยได้

พวกผลไม้หรือผักบางชนิดที่มีส่วนประกอบของน้ำสูง อย่างเช่น แตงกวา แตงโม สัปปะรด ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ บลูเบอรี่ บล็อคโคลี่ แคนตาลูป องุ่น ลูกแพร์ อะไรพวกนี้ก็ช่วยให้ร่างกายเราได้น้ำเข้าไปได้นะครับ แต่ถ้ากินในปริมาณมากก็ต้องระวังสารอาหารอื่นๆ ด้วยนะครับ อย่าง เช่นเรื่องของน้ำตาลในองุ่น หรือยูริคในแตงกวา

We rode 70 kilometers among the Carpathian mountains at an air temperature of 36 degrees Celsius and stopped to drink kvass and beer. It was like happiness. In this day we achieved “August Gran Fondo” badge in Strava.

Strava: https://www.strava.com/activities/1767388414
Photo by Victor Xok / Unsplash

เอาละครับ วันนี้ก็ได้คุยกันหลายมุมเกี่ยวกับเรื่องของน้ำกันไปแล้ว อย่าลืมนะครับ ยังไงก็ตามอย่าให้ร่างกายเราได้รับน้ำไม่เพียงพอ หรืออยู่ในภาวะขาดน้ำ ยิ่งเรากำลังลดความอ้วนกันแล้วด้วย ออกกำลังกายเยอะ คุมอาหารมาก บางคนสนใจแต่น้ำหนักบนตาชั่งอย่างเดียว เห็นน้ำหนักลดนี่ดีใจเลย บางทีเป็นการเสียเหงื่อไปกับการออกกำลังกายแค่นั้นเอง สุขภาพดีต้องดีในทุกแง่นะครับ สู้ๆ

และนี่คือคลิปรายการ Fat Talk EP.18 - ในวันนึงเราควรดื่มน้ำกี่แก้ว ? ใครสนใจสามารถคลิกเพื่อรับชมได้เลยครับ

Fat Talk EP.18 - ในวันนึงเราควรดื่มน้ำกี่แก้ว ?

Smart Watch สุขภาพที่เราคาดเดาได้
Previous article

Smart Watch สุขภาพที่เราคาดเดาได้

สุขภาพร่างกาย=ใช้ความรู้สึก+อุปกรณ์ ช่วยได้ ! 5 ฟีเจอร์สุขภาพที่อุปกรณ์เพื่อสุขภาพยุคใหม่ สามาถช่วยเราให้รู้จักกับสถานะของร่างกายตัวเอง ได้โดยไม่ต้องรอพบแพทย์

ลดความอ้วน อย่าลืมดูภาพรวมโภชนาการด้วย
Next article

ลดความอ้วน อย่าลืมดูภาพรวมโภชนาการด้วย

ไอ้นั่นกินแล้วอ้วน ไอ้นี่กินแล้วอ้วน เรามักจะโทษไอ้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ว่าเป็นตัวทำให้อ้วน ที่อ้วนเพราะกินไอ้นั่นไอ้นี่ จริงๆแล้วเราไม่ได้อ้วนเพราะสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียวหรอกครับ


GO TOP

🎉 You've successfully subscribed to Fat Fighting!
OK