ทำแบบนี้แค่วันละ 30 นาที ช่วยลดความเสี่ยงที่จะสมองเสื่อมได้

เปลี่ยนเวลาว่าง นั่งๆ นอนๆ แค่วันละ 30 นาที ไปทำกิจกรรมต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นสมองเสื่อมได้นะครับ


ทำแบบนี้แค่วันละ 30 นาที ช่วยลดความเสี่ยงที่จะสมองเสื่อมได้

พอจะมีเวลาสัก 30 นาทีมั้ยครับ เดี๋ยวจะพาไปคุยกับผู้เชี่ยวชาญใน Zoom .. หยอกๆ 55 เปลี่ยนเวลานั่งๆนอนๆ แค่วันละ 30 นาที ไปขยับร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงสมองเสื่อมได้นะครับ

งานนี้เป็นการศึกษาของ Sun และคณะ (2022) [1] เขาศึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมทางกาย (Physical Activity, PA) ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับช่วยป้องกันสมองเสื่อม (Dementia) ได้นะครับ โดยเขาเปรียบเทียบกับการที่เรามีพฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary Behavior, SB) นั่งๆนอนๆ ว่าถ้าหากเปลี่ยน SB เป็น PA แล้วเนี่ย มันจะมีผลยังไงบ้างต่ออัตราเสี่ยงที่จะเป็นสมองเสื่อม

ศึกษาในคนกลุ่มไหน ? ศึกษายังไง ?

โดยเขาศึกษาข้อมูลจากฐานข้อมูล UK Biobank มีข้อมูลจากคนอายุระหว่าง 37-73 ปี  ซึ่งเก็บรวบรวมระหว่างปี 2006-2010 จากข้อมูลห้าแสนกว่าคน คัดไปคัดมาได้ข้อมูล 397,519 อายุเฉลี่ย 56.5 ปี เป็นผู้ชาย 45.2% แปลกดีตรงที่ผู้ชายจะมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า คนที่ SB มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน มีแนวโน้มที่จะดื่มแอลกอฮอลล์ สูบบุหรี่ และอ้วน มากกว่าคนที่ SB น้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน

พวกข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ ทั้ง SB, PA ทำผ่านแบบสอบถามกิจกรรมมาตรฐานนะครับ  SB ก็เช่นใช้คอมพิวเตอร์ ดูทีวี ซึ่งคำถามเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ ก็เก็บข้อมูลถามซ้ำอีก 3 รอบ ในปี 2012, 2014 และ 2019

นอกจากข้อมูลสองอย่างนั้น เขาก็ดูข้อมูลยีน APOE e4 ด้วยนะครับ ยีนตัวนี้มีความเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ และสมองเสื่อม ที่เหลือก็เป็นข้อมูลอื่นๆ ซึ่งเป็นข้อมูลสุขภาพโดยทั่วไปนะครับ เขาก็นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อดูความสัมพันธ์ที่ว่า

ผลที่ได้คือ ?

ซึ่งเขาก็พบว่าในคนที่ SB > 5-8 ชั่วโมง/วัน ความเสี่ยงต่อสมองเสื่อมที่เกิดขึ้นมีสูงกว่า แล้ว SB > 8 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงสมองเสื่อมที่นำไปสู่การเสียชีวิตมากกว่าด้วย และถ้าดูในอายุคนที่อายุ < 60 ปีก็มีความเสี่ยงที่ว่ามากกว่า โดยที่ข้อมูลพวก เพศ BMI สถานะทางการเงิน และยีน APOE ที่กล่าวถึงข้างต้นไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญทางสถิติ

เมื่อเปลี่ยนช่วงเวลาว่าง 30 นาที ให้ไปทำ PA ชนิดต่างๆ ก็พบว่าความเสี่ยงที่จะสมองเสื่อมนั้นลดลง ความเสี่ยงต่อการเสี่ยงชีวิตจากสมองเสื่อมก็ลดลงด้วย โดยที่ความหนักของกิจกรรม มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่มากกว่าดีกว่า เดินเล่นชิลๆไม่ค่อยส่งผลอะไร แต่ถ้ามีกิจกรรมระดับเบาๆ ทำสวน ตัดหญ้า ก็ช่วยได้ดีกว่า ถ้าทำสวนที่หนักขึ้น ทำงานไม้ ขุดดิน ก็ยิ่งดีกว่า

หรือถ้าทำกิจกรรมแบบที่เหนื่อยขึ้น เหงื่อออก หายใจลำบากขึ้น (เพราะเหนื่อยนั่นแหละ) ก็ลดความเสี่ยงได้เพิ่มไปอีก ส่วนถ้าเป็นการออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แอโรบิค โบว์ลิ่ง ฯลฯ พวกนี้ก็ดีขึ้นไปอีก

ภาพรวมของงานนี้

จุดเด่นงานนี้ก็อยู่ที่ข้อมูลมีปริมาณมาก และมีการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง แต่ด้วยความเป็นงานแบบ Observational ก็จะมีข้อจำกัดเรื่องความแม่นยำของข้อมูลอยู่ โดยเฉพาะการตอบแบบสอบถามเรื่อง SB , PA ที่เจ้าตัวเป็นคนตอบเอง ก็อาจจะคาดเคลื่อนได้มากกว่าการใช้อุปกรณ์มาวัดโดยตรง

สรุป

แต่ก็เช่นเคยครับ มันไม่ได้ไร้ประโยชน์ ข้อมูลที่พบมันก็พอทำให้เห็นภาพได้ว่าการเปลี่ยนเวลาว่างเพียงวันละ 30 นาที ไปทำกิจกรรมอื่นๆ ไม่ใช่นั่งๆ นอนๆ สำหรับในคนที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งก็ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นสมองเสื่อม หรือเสียชีวิตจากสมองเสื่อมลงได้ มันก็ดูเข้าใจได้แหละ Active กว่าก็ดีกว่า

อ้างอิง

  1. Ying Sun , Chi Chen , Yuetian Yu , Haojie Zhang , Xiao Tan ,
    Jihui Zhang , Lu Qi , Yingli Lu , Ningjian Wang , Replacement of leisure-time sedentary behaviorwith various physical activities and the risk of dementia incidence and mortality: A prospective cohortstudy, Journal of Sport and Health Science (2022), doi: https://doi.org/10.1016/j.jshs.2022.11.005

GO TOP

🎉 You've successfully subscribed to Fat Fighting!
OK