[Friday-Finance] วิธีปรับพอร์ตโดยใช้กลยุทธ์ Core & Satellite สำหรับนักลงทุนมือใหม่วัยเริ่มทำงาน

รายชื่อกองทุนเรียงตามลำดับสัดส่วนที่มีในพอร์ตก่อนทำการปรับ

1 - 11.63% ONE-UGG-RA
2 - 10.74% KF-US
3 - 10.20% K-USA-A(A)
4 - 9.13% K-CHANGE-A(A)
5 - 9.07% KT-Ashares-A
6 - 7.36% B-CHINE-EQ
7 - 6.55% K-USXNDQ-A(A)
8 - 6.49% ASP-EVOCHINA
9 - 6.44% ASP-VIET
10 - 5.44% MPDIVMF
11 - 2.65% TMBCOF
12 - 2.56% MRENEW-A
13 - 2.39% TMB-ES-GINNO
14 - 2.37% TGENOME
15 - 2.20% PRINCIPAL GHEALTH-A
16 - 2.14% TCHTECH-A
17 - 1.40% PRINCIPAL iPROP-A
18 - 1.24% TSF-A

สัดส่วนของพอร์ตเมื่อแบ่งตามประเภทของสินทรัพย์ที่อยู่ในกองทุนรวมก่อนทำการปรับ

93.16% เป็นหุ้น กระจายอยู่ใน 16 กองทุน
6.84% เป็นอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐาน (Property/REITs, Infrastructure) กระจายอยู่ใน 2 กองทุน

วิเคราะห์ภาพรวมกองทุนก่อนทำการปรับ

74.91% เป็นการลงทุนแบบ Regional/Country
25.09% เป็นการลงทุนแบบ Thematic
โดยประกอบไปด้วย หุ้นจีน 27.71%, หุ้นสหรัฐ 27.49%, หุ้น Thematic 25.09%, หุ้นทั่วโลก 11.63%, อสังหาริมทรัพย์/โคร้งสร้างพื้นฐาน (ไทย, ไทย/สิงคโปร์) 6.84% และ หุ้นไทย 1.24%

จะปรับพอร์ตนี้เพื่อให้เหมาะกับผู้ลงทุนแบบใด

• อายุ 23-30 ปี
• เพิ่งเริ่มทำงาน หรืออยู่ในช่วงต้นของชีวิตการทำงาน
• มีจุดประสงค์ในการลงทุนที่เน้นให้เงินลงทุนเติบโต
• คาดหวังผลตอบแทน 10-12% ต่อปี
• ยอมรับผลขาดทุนได้ 10-20% ของมูลค่าพอร์ต
• มีแผนการลงทุนในกองทุนรวมเพียงแผนเดียว แต่อาจจะลงทุนในสินทรัพย์อื่นควบคู่ไปด้วยเช่น หุ้นรายตัว หรือคริปโทเคอร์เรนซี

สำหรับนักลงทุนที่อาจจะลงทุนมาสักระยะ พอร์ตเริ่มขยายตัว แต่ยังจับจุดไม่เจอเนื่องจากทิศทางของพอร์ตมีความกระจัดกระจาย สามารถนำกลยุทธ์ที่เรียกว่า Core & Satellite มาใช้เพื่อการปรับโครงสร้างพอร์ตของตัวเอง โดยมองภาพเหมือนกับพอร์ตของเราประกอบด้วย โลก (core) และดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบ ๆ โลก (Satellite) โดยส่วนที่เป็น core port จะมีสัดส่วนคิดเป็น 70-80% และ satellite port คิดเป็น 20-30%

core port จะเน้นการลงทุนระยะยาว มีการกระจายสินทรัพย์ (asset allocation) ส่วน satellite port จะเน้นตอบโจทย์สไตล์การลงทุนส่วนบุคคล เช่น ความชื่นชอบการลงทุนในเมกะเทรนด์ หรือความชื่นชอบในการเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งจะมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงกว่า

แนวทางในการปรับพอร์ต

1. ใช้กลยุทธ์ Core & Satellite เพื่อให้การลงทุนมีทิศทางที่ชัดเจนและนำไปสู่เป้าหมาย
2. ควบคู่ไปกับการกระจายสินทรัพย์ทั้งเชิงกลยุทธ์ (Strategic Asset Allocation) และเชิงแทคติก (Tactical Asset Allocation) โดยจะมีการปรับสมดุลพอร์ต (Rebalance) ปีละ 1-2 ครั้งอย่างมีวินัย
3. ลดจำนวนกองทุนที่ซ้ำซ้อนลงเพื่อให้สามารถโฟกัสได้ดีขึ้น

คำแนะนำสำหรับ Core port

1. ใช้ทั้งการกระจายสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์และเชิงแทคติก โดยสัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์สามารถยืดหยุ่นตามสถานการณ์
2. มีสัดส่วนสินทรัพย์ที่ลงทุนในระดับโลก ภูมิภาค หรือประเทศเป็นหลัก
3. ลดจำนวนกองทุนหุ้นลงเพื่อเพิ่มสัดส่วนให้กับสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น ตราสารหนี้โลก กองทุนอสังหาริมทรัพย์/รีท
4. เน้นสัดส่วนการลงทุนไปที่หุ้นทั่วโลก หุ้นสหรัฐ และหุ้น Thematic ที่มี universe กว้าง

สัดส่วนของ Core port หลังทำการปรับ

หุ้นทั่วโลก 30% - ONE-UGG-RA
หุ้นสหรัฐ 20% - K-USA-A(A)
หุ้นจีน 15% - KT-Ashare-A (7.5%), ASP-EVOCHINA (7.5%)
หุ้น Thematic 5% - TMB-ES-GINNO
ตราสารหนี้โลก 10% - KKP-G-UBOND-H
อสังหาริมทรัพย์ (ไทย/สิงคโปร์) 10% - TMBPIPF
ทองคำ 10% - SCBGOLDH

คำแนะนำสำหรับ Satellite port

แบ่งสัดส่วนออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกลงทุนระยะยาวในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความชื่นชอบหรือถนัด ส่วนที่สองเก็งกำไรระยะสั้นเพื่อคว้าโอกาสตามสถานการณ์ในขณะนั้น

สัดส่วนของ Satellite port หลังทำการปรับ

ลงทุนระยะยาวตามความถนัด 70% (เช่น ASP-VIET, K-CHANGE-A(A), PRINCIPAL GHEALTH-A ฯลฯ)
เก็งกำไรระยะสั้น 30% (ติดตามจากสถานการณ์และสัญญาณทางเทคนิค)

ที่มาของบทความ: 2Fi: Finance & Fitness Blockdit

สรุปจาก: "สอนจัดพอร์ตมือใหม่วัยเริ่มทำงาน ด้วยกลยุทธ์ Core & Satellite | FIX MY PORT EP.05"

สนใจสร้างพอร์ต #กองทุนรวม ผ่าน #FINNOMENA เลือกกองทุนได้จาก 22 บลจ.(กองภาษี 5 บลจ.) ไม่มีค่าบริการเพิ่ม โดยมีผม ทศพล สุวรรณสุต ใบอนุญาตจากกลต.เลขที่ 115000 เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว เพียงยืนยันตัวตนด้วย NDID และทำแบบประเมิน KYC ออนไลน์ อนุมัติใน 1 สัปดาห์ (กรุณากรอก Referral code: 115000) >>> https://link.finnomena.com/ifa?refcode=115000